Main Menu

Recent posts

#11
ตัวแรง ราคาดี  8)
#12

Kawasaki Z900 SE เป็น Naked Bike อีกรุ่นของคาวาซากิ ที่ยังคงคาแรคเตอร์ที่ดุดันเเละสง่างามตามสไตล์ Sugomi  โดยมันให้ความรู้สึกที่ เร้าใจและควบคุมง่าย รวมไปถึงดุดันและการควบคุมฉับไว คล่องตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถในตระกูล Z นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับ Kawasaki Z900 SE เเล้วมีมิติตัวรถที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยการที่มีความกว้างอยู่ที่ 825 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,115 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,455 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 145 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 800 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 213 กิโลกรัม เรียกว่าน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Kawasaki Z900 SE ก็เเรงไม่ใช่เล่นๆ เมื่อมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 948 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four  มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 73.4 x 56.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.8 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø36 mm x 4 with sub-throttles โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า เรียกว่าเเรงสะใจไปเลย

เฟรมของ Kawasaki Z900 SE ได้รับการปรับปรุงใหม่ถูกเสริมความแข็งแรงในส่วนของแกนสวิงอาร์มเพื่อความมั่นคงและแม่นยำ ในขณะที่ยังรักษาสมรรถนะการควบคุมอันยอดเยี่ยมจากรูปเเบบเฟรมของ  Z900 SE เอาไว้อย่างครบถ้วน ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ ø41 mm inverted fork with compression and rebound damping and spring preload adjustability  ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบ Horizontal Back-link, gas-charged shock with rebound damping and spring preload adjustability  ในขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นเเบบ Dual semi-floating ø300 mm discs caliper Dual radial-mount, monobloc, opposed 4-piston ส่วนระบบเบรกด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø250 mm petal discs caliper Single-piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 120/70ZR17 M/C (58W) ส่วนยางหลังมีขนาด 180/55ZR17 M/C (73W) หน้าจอเเสดงผลเป็นจอเเบบ LCD มัลติฟังก์ชั่น โคมไฟหน้าแบบ LED พร้อมกับไฟท้ายเเบบ LED เช่นกัน โดยมาพร้อมกับตัวบอดี้ให้เลือกถึง 3 สี ทั้งสี METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) (ACC) (2023), สี METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) เเละสี METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) (ACC)

โดยราคาขายของ Kawasaki Z900 SE นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 482,000 บาท สำหรับสีเเบบ METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) (ACC) (2023) ส่วนเรทราคา 499,800 บาทสำหรับสีเเบบ METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) เเละ 512,000 บาทสำหรับสีเเบบ METALLIC SPARK BLACK / CANDY LIME GREEN (SE) (ACC)
#13

คาวาซากิ เป็นอีกเเบรนด์ที่ส่งรถเข้าร่วมการเเข่งขันในรายการต่างๆ มากมาย เเละเทคโนโลยีจากสนามเเข่งขันก็ถูกถ่ายทอดมาสู่บิ๊กไบค์ในท้องตลาด โดยเจ้า Kawasaki Ninja ZX-10RR ก็เป็นอีกรุ่นที่สามารถคว้าเเชมป์มาหลายสนามเเละมีการผลิตออกมาจำหน่ายทั่วไป โดยผลิตออกมาจำหน่ายเพียงเเค่ 1,000 คันทั่วโลก เรียกว่ามีหลายๆ คนอยากได้มาครอบครองเป็นเจ้าของ

มิติตัวรถของ Kawasaki Ninja ZX-10RR ก็น่าสนใจไม่น้อย โดยมันมาพร้อมกับความกว้างอยู่ที่ 740 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,085 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,145 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,440 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 145 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 17 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 206 กิโลกรัม

Kawasaki Ninja ZX-10RR นั้นพกพาความเเรงด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ ขุมกำลังขนาด 998 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 76 x 55 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 13.0 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø47 mm x 4 with dual injection โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric เป็นรถที่ทรงพลังเเละมีสมรรถนะสูงอย่างยิ่ง

Kawasaki Ninja ZX-10RR นั้นมีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยีสูงเเละวัสดุชั้นเลิศ โดยมันมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ ø43 mm inverted Balance Free Front Fork with external compression chamber, compression and rebound damping and spring preload adjustability, and top-out springs ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Horizontal Back-link with BFRC lite gaschanged shock, piggyback reservoir, compression and rebound damping and spring preload adjustability, and top-out springs ในขณะที่ระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ Dual semi-floating ø330 mm Brembo discs Dual radial-mount, Brembo M50 monobloc, opposed 4-piston ส่วนระบบห้ามล้อหลังเป็นเเบบ Single ø220 mm disc Single-bore pin-slide โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 190/55ZR17M/C (75W) ส่วนทางด้านมาตราวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มจับคู่มากับหน้าจอ LCD สี TFT full colour คุณภาพสูง ส่วนโคมไฟหน้าดูสปอร์ตเร้าใจเเบบ LED เเละมีตราประทับ "RR" อยู่ที่ฝาครอบ pulser และที่ปุ่มสตาร์ท เพื่อให้แตกต่างจากรุ่นธรรมดา เเละมีล้อแม็กซ์อะลูมิเนียม 7-Spoke ซึ่งคาวาซากิร่วมกับ Marchesini พัฒนาขึ้นเพื่อความคล่องตัวให้กับการขับขี่ โดยตัวบอดี้มีสีเดียวคือ สี LIME GREEN ที่เป็นเอกลักษณ์ของนินจา

สนราคาของ Kawasaki Ninja ZX-10RR นั้นเคาะราคาขายออกมาที่เรท 998,000 บาท เรียกว่าเป็นเรทราคาที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับบิ๊กไบค์สมรรถนะสูงๆ ที่มีดีเอ็นเอมาจากสนามแข่งเเบบนี้
#14

Kawasaki KLX230 S (2023) เป็นเอ็นดูโร่อีกรุ่นในตระกูล KLX ของคาวาซากิ ที่ได้รับความนิยมเเละมียอดจำหน่ายสูงทั้งในตลาดตะวันตกเเละตลาเอเซีย เเถมยังได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เเละรุ่นล่าสุดก็มีการอัพเดทความสามารถในแบบดูอัลเพอร์โพสให้มีความเเข็งเเกร่งมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของเครื่องยนต์และเฟรมก็ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิดของการขับขี่ในเส้นทางธรรมชาติแบบออฟโรด

ในส่วนของมิติตัวรถนั้น Kawasaki KLX230 S (2023) ก็มีความกว้างอยู่ที่ 835 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,080 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,110 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,360 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 210 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 830 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 7.5 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 135 กิโลกรัม เป็นรถรุ่นยอดนิยมขนาดเล็กที่มีตัวรถน่าสนใจไม่น้อย

ทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Kawasaki KLX230 S (2023) พกพาขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 233 ซีซี ที่เป็นเครื่องยนต์เเบบ Air-cooled, 4-stroke Single มีระบบวาล์วเเบบ SOHC, 2 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 67.0 x 66.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 9.4 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา มีระบบหล่อลื่น เเบบ Forced lubrication, wet sump ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเเบบ 6 สปีด, ย้อนกลับ มีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็น Fuel injection (ø32 x 1) โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า นับว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงน่าขับขี่มากอีกรุ่น

ทางด้านเฟรมของ Kawasaki KLX230 S (2023) ได้รับการออกเเบบมาใหม่ให้มีความเเข็งเเรงเเละน้ำหนักเบา โดยมีระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø37 mm invented fork ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ New Uni Trak with adjustable preload โดยที่ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø265 mm petal disc คาลิปเปอร์ Twin-piston ส่วนระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø220 mm petal disc คาลิปเปอร์  Single-piston ขนาดยางหน้าอยู่ที่ 2.75-21 45P ส่วนขนาดยางหลังอยู่ที่ 4.10-18 59P หน้าจอเเสดงผลขนาดเล็กเเบบดิจิตอล โดยมีโคมไฟหน้าเป็นเเบบ LED รุ่นใหม่ ขนาดกระทัดรัด ที่ถูกนำมาแทนที่ไฟหลอดเเบบเดิมๆ พร้อมด้วยชุดไฟหน้าใหม่ที่เพรียวขึ้น จึงให้ลุคที่โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม สอดรับกับหน้ากากครอบไฟหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดกระทัดรัดกว่าเดิมรวมถึงบังโคลนหน้าใหม่ โดยตัวบอดีมีเพียงสีเดียวคือสี LIME GREEN (S) (NON ABS) (2023) เป็นสีที่สวยงามบ่งบอกความเป็นคาวาซากิ

ราคาขายของ Kawasaki KLX230 S (2023) นั้นเคาะราคาขายออกมาที่เรท 145,200 บาท นับว่าเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นของคาวาซากิที่ราคาน่าคบอย่างยิ่ง
#15

Ducati Scrambler Nightshift เป็นรถ Café Racer เท่ห์ ๆ ในตระกูล Ducati Scrambler ที่น่าหลงใหลเเละมาสัมผัสกับความร้อนเเรงเป็นอย่างยิ่ง

Ducati Scrambler Nightshift นั้นมีมิติตัวรถที่น่าสนใจ โดยมันมีความยาวอยู่ที่ 2,100-2,165 มิลลิเมตร ความกว้างอยู่ที่ 867 มิลลิเมตร เเละความสูงที่ 1,060 มิลลิเมตร น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 180 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 196 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 798 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,445 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 112 มิลลิเมตร ส่วน Total steering lock อยู่ที่ 35 องศา ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 13.5 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวเเบบ Dual seat

Ducati Scrambler Nightshift มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 803 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 88 x 66 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 73 เเรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 66.2 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body  ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น Stainless steel muffler with catalytic converter and 2 lambda probes, aluminium tail pipes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 อัตรา Straight cut gears, Ratio 1.85:1 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain, front spocket 15, rear sprocket 46 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch

Ducati Scrambler Nightshift นั้นมีเฟรมเเบบ Tubular steel Trellis frame ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Upside down Kayaba 41 mm fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Kayaba rear shock, pre-load adjustable ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ Ø330 mm disc, radial 4-piston calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel 3.00" x 18"  ล้อหลังเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel 5.50" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 110/80 R18 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 180/55 R17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกเมืองหลังทรงกลมที่ปลายทั้งสองด้าน ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวดูดุดันจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ LCD โดยเป็นทรงกลมผสมกับเหลี่ยมรูปเเบบใหม่ ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีสีเดียวคือสีเทา Aviator Grey

สนราคาของ Ducati Scrambler Nightshift  นั้นเคาะออกมาที่ 449,000 บาท
#16

สปอร์ตไบค์ของดูคาติมีหลากหลายรุ่นที่มีความน่าสนใจเเละหนึ่งในนั้นก็คือ Ducati Panigale V4 ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้มาสัมผัสกับสมรรถนะที่ร้อนรองบนทางเรียบ

ตัวรถของ Ducati Panigale V4 นั้นมีมิติที่น่าสนใจไม่เเพ้รุ่นอื่นๆ  โดยมันมีน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 175 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 198 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 835 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,469 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24.5 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 100 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 16 ลิตร เบาะนั่งโดยสารเป็นเเบบ Dual seat

ทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Ducati Panigale V4 ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Desmosedici Stradale 90° V4, counter-rotating crankshaft, 4 Desmodromic timing, 4 valves per cylinder, liquid-cooled ที่มีขุมพลังขนาด 1,103 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 81 x 53.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 14.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 214 เเรงม้าที่ 13,000 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 124.0 นิวตันเมตรที่ 10,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system. Twin injectors per cylinder. Full ride-by-wire elliptical throttle bodies. Variable length intake system ส่วนระบบไอเสียจะเป็น4-2-1-2 system, with 2 catalytic converters and 2 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed with Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO 2 ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears; Ratio 1.80:1 มีอัตราที่ 1=38/14 2=36/17 3=33/19 4=32/21 5=30/22 6=30/24 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain; Front sprocket 16; Rear sprocket 41 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch

Ducati Panigale V4 นั้นมาพร้อมกับเฟรมเเบบ Aluminum alloy "Front Frame" with optimized stiffnesses ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็น Fully adjustable Showa BPF fork. 43 mm chromed inner tubes ระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Fully adjustable Sachs unit. Aluminum single-sided swingarm ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x 330 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Monobloc Stylema® (M4.30) 4-piston callipers with Bosch Cornering ABS EVO ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ 245 mm disc, 2-piston calliper with Cornering ABS EVO ส่วนล้อหน้าจะเป็น 5-spokes light alloy 3.50" x 17" ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบ 5-spokes light alloy 6.00" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Supercorsa SP 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Supercorsa SP 200/60 ZR17 ด้านหน้าเป็นเเบบ Panigale look มี air intakes 2 ตำเเหน่ง โคมไฟหน้าได้รับการออกเเบบใหม่เเละเป็นเเบบ full-LED headlight ทั้งสองดวง เเฟริ่งเป็นเเบบ Double Layer ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวดูดุดันพร้อมหน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีเป็นเฉดสีเเดง Ducati Red อันเป็นเอกลักษณ์ของดูคาติ

ราคาขายของ Ducati Panigale V4 นั้นเคาะออกมาที่เรท 999,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
#17

ตำนานสุดยอดรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ของไทรอัมพ์อย่าง Triumph ROCKET 3 GT ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เเรงเเละใหญ่ที่สุดในสายพานการผลิตของไทรอัมพ์ ส่งมอบการขับขี่ที่ลื่นไหลเป็นอย่างยิ่ง เเละตอบสนองต่ออัตราเร่งได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นรุ่นที่น่าจับตามองมากที่สุด

Triumph ROCKET 3 GT นั้นมาพร้อมกับมิติตัวรถขนาดใหญ่ โดยมีแฮนด์บาร์กว้าง 886 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,066 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 750 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,677 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 27.9 º ส่วนเทรลอยู่ที่ 134.9 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 18 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 294 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.82 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph ROCKET 3 GT มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ สามสูบเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 2,458 ซีซี กระบอกสูบขนาด 110.2 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 85.9 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 10.8:1 สามารถให้กำลังที่ 167 เเรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 221 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบคอท่อไอเสียสแตนเลสเข้า 3 ออก 1 พร้อมปลายท่อเก็บเสียง 3 ทางและ CAT box อันเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้  ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบ เพลาขับเคลื่อนและเฟืองบีเวล โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบ ครัชท์ไฮดรอลิกพร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

Triumph ROCKET 3 GT มีเฟรมเเบบโครงอลูมิเนียม ที่ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีให้มีความเเข็งเเรงเเต่น้ำหนักเบา เเละมีสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนเดี่ยว คอยช่วยอีกเเรง ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบล้ออลูมิเนียมหล่อ ขนาด 17x3.5 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบล้ออลูมิเนียมหล่อ ขนาด 16x7.5 นิ้ว  ส่วนยางหน้ามีขนาด 150/80 R17 V ยางหลังมีขนาด 240/50 R16 V โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหน้าหัวกลับ Showa ขนาด 47 มิลลิเมตร  ระบบคาร์ทริดจ์พร้อมด้วยตัวปรับตั้งค่าการยุบตัวและการคืนตัว ที่มีระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร  ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้คอัพ Showa แบบมีซับแทงค์สามารถปรับตั้งได้เต็มระบบ พร้อมด้วยรีโมทควบคุมการปรับตั้งพรีโหลดแบบไฮดรอลิค ระยะยุบตัวล้อหลัง 107 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร พร้อมด้วยคาลิปเปอร์โมโนบล็อค Brembo M4.30 Stylema 4 ลูกสูบ และระบบ Cornering ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบ จานเบรกเดี่ยวขนาด 300 มิลลิเมตร พร้อมด้วยคาลิปเปอร์โมโนบล็อค Brembo M4.32 4 ลูกสูบ และระบบ Cornering ABS โดยมีหน้าจอมัลติฟังก์ชั่นแบบ TFT ด้วยรูปแบบการแสดงผลความเร็วแบบดิจิทัล ทริปคอมพิวเตอร์ วัดรอบแบบดิจิทัล แสดงตำแหน่งเกียร์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สัญลักษณ์เตือนเข้าเซอร์วิส แสดงอุณหภูมิอากาศ นาฬิกา และโหมดการขับขี่ (Rain/Road/Sport/Rider-configurable) ระบบการเชื่อมต่อกับ TFT ของไทรอัมพ์สามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริม Bluetooth ได้ โคมไฟน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 2 ดวง เเละมีอุปกรณ์เสริมสไตล์คัสตอมของ Rocket 3 รุ่นใหม่กว่า 50 รายการ เพื่อเสริมสไตล์ ประโยชน์ใช้สอย และความสามารถด้าน Touring ตัวบอดี้มีมาให้เลือก 2 สีคือ สีดำล้วน เเละสีเทา

ราคาขายของ Triumph ROCKET 3 GT  อยู่ที่ เรท 995,000 บาท
#18

Triumph NEW STREET SCRAMBLER SANDSTORM เป็นรถจักรยานยนต์อีกรุ่นของไทรอัมพ์ ที่พกพาความพิเศษมาอย่างเต็มพิกัด ด้วยการผลิตออกมาเพียงเเค่ 775 คันทั่วโลก ติดตั้งอุปกรณ์มาอย่างเต็มพิกัดเเบบพรีเมียมเเละโทนสีเเบบ Sandstorm พร้อมใบรับรองของแท้สำหรับแต่ละคัน เรียกว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง

Triumph NEW STREET SCRAMBLER SANDSTORM มีโครงสร้างตัวรถที่น่าสนใจ โดยมีความกว้างของแฮนด์รถที่ 790 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,180 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,445 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 153 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 12 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 223 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph NEW STREET SCRAMBLER SANDSTORM พกพาเครื่องยนต์เเบบลูกสูบคู่ขนานแบบ SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว องศาจุดระเบิดเยื้องกัน 270 องศา โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 900 ซีซี กระบอกสูบขนาด 84.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 65 เเรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 3,250 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายจุดเป็นลำดับแบบอิเล็กทรอนิกส์  ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบระบบท่อไอเสียคู่เข้า 2 ออก 2 ผิวปัดเงา พร้อมท่อเก็บเสียง ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่โอริง โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด

Triumph NEW STREET SCRAMBLER SANDSTORM มีเฟรมเป็นเเบบโครงเหล็กคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มโครงเหล็กแขนคู่ ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบล้อซี่ลวด ขนาด 19 x 2.5 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบล้อซี่ลวด ขนาด 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้าเป็นเเบบยาง Metzeler Tourance ขนาด 100/90-19 ส่วนยางหลังเป็นเเบบยาง Metzeler Tourance ขนาด 150/70 R17 ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้คหน้าขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อม Damping cartridge ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้คหลังคู่ พร้อมตัวปรับพรีโหลด ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกเดี่ยวแบบลอยตัวขนาด 310 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์แบบสี่สูบจาก Brembo และระบบ ABS ส่วนทางด้านเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS โดยที่แผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น LCD พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก  ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเเบบ 2 ชิ้น จำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนตัวบอดี้นั้นมี สีน้ำตาล-ดำ ดุดันสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกรุ่น

ราคาขายของ Triumph NEW STREET SCRAMBLER SANDSTORM นั้นอยู่ที่เรทราคา 494,000 บาท
#19

ไทรอัมพ์ นับว่าเป็นเเบรนด์รถจักรยานยนต์เมืองผู้ดีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิคที่ยังคงเอกลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน โดย Triumph NEW BONNEVILLE T100 เป็นอีกรุ่นที่เต็มไปด้วยความสวยงามเเละมีสรรถนะที่น่าสัมผัสอย่างยิ่ง

โครงสร้างของตัวรถ Triumph NEW BONNEVILLE T100 มีมิติที่สมส่วนเเละน่าสนใจ โดยมีความกว้างของแฮนด์รถที่ 780 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,100 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 104 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 229 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.1 ลิตร/100 กิโลเมตร

สมรรถนะของเครื่องยนต์ Triumph NEW BONNEVILLE T100 ถือว่าเเรงเเละดุดัน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ในเเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา โดยมีขุมพลังขนาด 900 ซีซี กระบอกสูบขนาด 84.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 11.0:1 สามารถให้กำลังที่ 65 เเรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 80 นิวตันเมตรที่ 3,750 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดตามลำดับ ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบท่อไอเสียสเตนเลสสตีล 2 เป็น 2 พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่ โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 5 สปีด

Triumph NEW BONNEVILLE T100 มีเฟรมเป็นเเบบโครงท่อเหล็กพร้อมแท่นวางคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบการประดิษฐ์สองด้าน ประสานงานการทำงานกันได้อย่างลงตัว ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบซี่เหล็ก 32 ซี่ 18 x 2.75 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบซี่เหล็ก 32 ซี่ 17 x 4.25 นิ้ว ส่วนยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70-R17โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบส้อม 41 มิลลิเมตร พร้อมตลับ ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ RSU คู่พร้อมการปรับพรีโหลด โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบดิสก์ลอยเดี่ยวØ310มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Brembo 2 ลูกสูบแกน ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบลอยพร้อม ABS โดยหน้าจอเป็นแผงหน้าปัด LCD มัลติฟังก์ชั่นแบบ Dual-display พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก โคมไฟน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 2 ดวง เบาะเดี่ยวจำนวนสองที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีฟ้า MERIDEN BLUE / TANGERINE สวยงาม เเละมีอุปกรณ์เสริมมากมาย อาทิ แร็คและที่จัดเก็บสัมภาระ

ราคาขายของ Triumph NEW BONNEVILLE T100 อยู่ที่เรทราคา 469,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นที่มาเติมความสนุกให้การเดินทางประจำวันได้เป็นอย่างดี
#20


Suzuki V-Strom SX ของซูซูกิเป็นรถเเนวแอดเวนเจอร์ ที่เรียกได้ว่าเป็นสปอรต์แอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์อย่างแท้จริง โดยมันมีสมรรถนะที่สูงเป็นอย่างมากเเละสามารถใช้งานได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่นใบแบบแอดเวนเจอร์อีกด้วย เเละที่สำคัญมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในด้านการขับขี่ด้านการผจญภัยผสมผสานกับการใช้งานที่ครอบคลุม จึงได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน สมกับวลีเด็ดว่า Adventure Anywhere

Suzuki V-Strom SX มาพร้อมกับโครงสร้างของตัวรถที่มีความน่าสนใจ โดยที่มันมาพร้อมกับขนาความกว้างที่ 880 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,180 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,355 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 1,440 มิลลิเมตร เเละมีระยะห่างจากพื้น 205 มิลลิเมตร โดยมีความสูงเบาะนั่งที่ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 12.0 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 165 กิโลกรัม เป็นสุดยอดสปอรต์แอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์อีกรุ่นของซูซูกิ

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Suzuki V-Strom SX นั้นก็น่าสนใจ เพราะมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ที่มีขนาด 249.1 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์ 4-stroke, Single-Cylinder, Oil-Cooled, SOHC โดยมีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 76.0 x 54.9 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic ignition  ทำให้มีอัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.7 : 1 ระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection ส่วนระบบหล่อลื่นเป็นเเบบ Wet sump มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric โดยที่มีระบบเกียร์เป็นเเบบ ระบบเกียร์ 6-speed constant mesh ถือว่าสมรรถนะสูงเลยทีเดียว

Suzuki V-Strom SX มาพร้อมกับเฟรมที่ได้รับการออกเเบบใหม่เเละใช้วัสดุที่ให้ความเเข็งเเกร่งอย่างยิ่ง โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic ให้ระยะการยุบตัว 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มมีการปรับพรีโหลดได้ 7 ระดับ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการ ในขณะที่เบรกหน้าจะเป็นเเบบ Disc, Single ส่วนเบรกหลังจะเป็นแบบ Disc โดยที่มีขนาดยางหน้าเป็นเเบบ 120110/90-19M/C 57S Tubeless ส่วนขนาดยางหลัง เป็นเเบบ 140/70-17M/C 66S, Tubeless ล้อหน้าอะลูมิเนียมหล่อแบบ 10 ก้านขนาด 19 นิ้ว ให้การควบคุมที่ดีเยี่ยมพร้อมยางแบบ Tubeless ดิสก์เบรกหน้า และหลัง ABS ที่ให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง ส่วนท่อไอเสียแบบคู่ ใหม่ ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ All New V-Strom SX พร้อมฝาครอบท่อไอเสียที่แข็งแกร่ง มีฝาครอบเครื่องยนต์ ให้ความสวยงาม และสามารถป้องกันความเสียหายต่อตัวรถขณะขับขี่ ส่วนดีไซน์ด้านหน้าแบบปากนก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก DR-Z และ DR-BIG ออฟโรดในตำนาน ซึ่งถูกออกแบบใหม่โดยเฉพาะสำหรับ All New V-Strom SX ไฟหน้า LED แบบแนวตั้งแยกอิสระ รูปทรงแปดเหลี่ยมมีประสิทธิภาพในการส่องสว่าง พร้อมความทนทาน เป็นเยี่ยม และไฟท้ายแบบ LED Combination Light ส่วนชิลด์หน้า ช่วยลดแรงลมปะทะ และลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล มีการ์ดแฮนด์ทั้ง 2 ข้าง สไตล์สปอร์ตแอดเวนเจอร์เพื่อเพิ่มการป้องกันลม ฝน และเศษหิน ช่วยให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนจอแสดงผลแบบ Digital Full LCD พร้อมมาตรวัดแสดงผลอย่างครบครัน มีน้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัด สามารถ ปรับความสว่างได้ เพื่อการอ่านหน้าจอได้อย่างง่ายดาย เบาะนั่งแบบ 2 ชิ้น เพิ่มความกระชับของท่านั่ง และป้องกันการลื่นไถล เพิ่มความสะดวกในการเก็บสัมภาระ ด้วยแร็คท้ายอะลูมิเนียมขนาดใหญ่รับน้ำหนักได้ถึง 6 กิโลกรัม กราฟิกดีไซน์ใหม่ ได้แรงบันดาลใจจากกีฬาในแบบ Extreme Adventure ส่วนพักเท้าอะลูมิเนียมหุ้มด้วยยางแบบ Adventure เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือนช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล ตัวบอดีมี 2 สีคือ สีเหลือง CHAMPION YELLOW NO.2 (YU1) กับสีดำ GLASS SPARKLE BLACK (YVB)

ทางด้านราคาขายของ Suzuki V-Strom SX นั้นในประเทศไทยยังไม่ได้ประกาศราคาขายออกมาอย่างเป็นทางการ